วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

BullGuard Internet Security



BullGuard Internet Security 

BullGuard Internet Security เป็นชุดรักษาความปลอดภัยอินเตอร์เน็ตที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ท่องอินเทอร์เน็ตด้วยความมั่นใจในการปกป้องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจากไวรัส, แฮกเกอร์, สแปม, สปายแวร์และภัยคุกคามออนไลน์อื่น ๆ พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย การจัดเก็บข้อมูลออนไลน์สำหรับการสำรองข้อมูลของคุณมูลค่า ในแบบ real-time 




โปรแกรม  BullGuard Internet Security อยู่ในอันดับที่ 8 จาก Top 10 AntiVirus ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2012 จากเว็บไซต์ TopTenReviews โดยอันดับหนึ่งนั้นก็คือ Bitdefender Antivirus Plus ตามมาด้วย Kaspersky Anti-Virus และ Panda Antivirus Pro
http://www.bullguard.com/products/bullguard-internet-security-12.aspx



โปรแกรม อันดับหนึ่ง BullGuard Mobile Security จาก 8 อันดับ Antivirus ที่ดีที่สุดสำหรับมือถือหรือสมาร์ทโฟนปี 2012ของสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะ Android, iPhone, Blackberry, Windows Phone โดยการจัดอันดับนี้ทำขึ้นโดย TopTenREVIEWS
http://www.bullguard.com/products/bullguard-mobile-security-10.aspx

คุณสมบัติของ BullGuard Internet Security 


1. Antivirus - ไม่ขัดจังหวะการทำงานของคุณหรือชะลอเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่ง BullGuard Antivirus จะช่วยให้ผู้บุกรุกทั้งหลายออกจากระบบของคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยตรวจจับพฤติกรรมที่ก้าวหน้ากว่าสปายแวร์ไวรัสและมัลแวร์อื่น ๆ 


2.  Firewall – แฮกเกอร์และการขโมยข้อมูลการฉ้อโกงออนไลน์ BullGuard Firewall ป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้คุณสามารถเรียกดูได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณควบคุมการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบและช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าไฟร์วอลล์ของคุณเอง


3. Spamfilter - ข้อความสแปม BullGuard Spamfilter ช่วยขจัดจดหมายขยะและหลอกลวง e-mail เช่น ความพยายามในการฟิชชิ่งสแปมไวรัส ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถเข้ากันได้กับระบบ e-mail เช่น Outlook, Outlook Express, Thunderbird และวินโดวส์จดหมาย


4. เซฟ Browsing - เว็บไซต์ที่แม้ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายจริงอาจเป็นอันตราย, harboring ไวรัสสปายแวร์ฟิชชิ่ง  BullGuard จะปลอดภัย คุณสมบัติพิเศษของมันจะตรวจสอบเว็บไซต์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในผลลัพธ์การค้นหาและจะบอกเว็บที่มีความปลอดภัยและที่ดีที่สุด 


5. โหมดเกม - โหมดเกม BullGuard นำทรัพยากรที่มีต่อเกมโดยไม่สูญเสียความปลอดภัย มันทำให้แน่ใจว่าไม่ขัดจังหวะโดยการแจ้งเตือนการสแกนหรือปรับปรุง และคุณสามารถปรับแต่งให้ตอบสนองความต้องการ โดยการแก้ไขโปรไฟล์เกมที่มีอยู่และสร้างใหม่


6. ควบคุมโดยผู้ปกครอง - การควบคุมโดยผู้ปกครอง BullGuard คุณสามารถปิดกั้นการเข้าถึงไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมหรือเนื้อหาออนไลน์ จำกัด เวลาของบนอินเทอร์เน็ตและตรวจสอบกิจกรรม 


7. อาจจะขึ้นไปขณะที่ท่องเว็บ - ไม่กี่คลิกก็จะให้ตากับกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขาและให้พวกเขาออกจากปัญหา


8. เครื่องสแกนเนอร์ช่องโหว่ – เครื่องสแกนเนอร์ตรวจสอบช่องโหว่ระบบ เพื่อหาซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยและปรับปรุงที่จำเป็น สิ่งที่ต้องทำคือการคลิกที่ลิงค์ จะให้ไม่มีความเสี่ยง


9. Tune Up เครื่องคอมพิวเตอร์ - BullGuard Tune Up! ลักษณะจะสแกนคอมพิวเตอร์สำหรับโปรแกรมหรือไฟล์ที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ จากนั้นก็เริ่มทำความสะอาดได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์หรือช่วยให้รู้ว่าสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานให้เร็วขึ้น


10. สำรอง - สามารถใช้ BullGuard   การสำรองข้อมูลออนไลน์   5GB สำหรับรักษาความปลอดภัยไฟล์ของคุณมีค่าข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดความผิดพลาด    โดยสำรองข้อมูลเพื่อเก็บเพลงภาพถ่ายหรือเอกสารทางธุรกิจ   เมื่อต้องการดึงหรือดาวน์โหลดก็เพียงแค่คลิกเข้าปในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นหรือโทรศัพท์   สามารถทำให้การปรับปรุงได้บ่อยเท่าที่ต้องการ 

ดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งการตั้งค่าของ 
BullGuard Internet Security 8.7 (Final version) http://www.bullguard.com/windows7.aspx 
BullGuard Internet Security 9.0 BullGuardDownloader.exe
Windows 7 (32-bit และ 64-bit) 
Windows Vista (32-bit และ 64-bit) 
Windows XP (SP2 ขั้นต่ำ)
หน่วยความจำ : RAM 512MB
พื้นที่ว่างในฮาร์ดไดรฟ์  : 200MB
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต : Dial-up ขั้นต่ำ


ภาษาแอพลิเคชัน
 ภาษาอังกฤษ            ภาษาสวีเดน
 ภาษาเยอรมัน            นอร์เวย์
 ภาษาฝรั่งเศส            ดัตช์
 ภาษาสเปน               อิตาเลียน
 ภาษาเดนมาร์ก           ภาษาโปรตุเกส
 โปรตุเกสแบบบราซิล     จีน
http://www.bullguard.com/downloads.aspx



สมาชิก
นางสาวธนัฐฐา  พราหมณีโสภา  รหัส 2541051541317
นางสาวพิมพา   พิทักษ์ุสุข  รหัส 2541051541320
นางสาวปาริชาติ   แขวงรถ  รหัส 2541051541321



 

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Key Logger


xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

Key Logger หมายถึงอะไร

          Key Logger คือ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง โดยการทำงานจะอยู่ในลักษณะที่ผู้ไม่หวังดีจะทำการบันทึกการกดแป้นพิมพ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอาไว้ และจะขโมยข้อมูลทุกอย่างที่เราได้พิมพ์ไป เช่น รหัสผ่านอีเมล์ รหัสถอนเงินผ่าน e-banking รหัสซื้อขายหุ้น และความลับทุกอย่างที่เราได้พิมพ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นผู้ที่ไม่หวังดีก็จะนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น เพื่อการข่มขู่ แบรกเมล์ หรือการนำรหัสบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า ฯลฯ 

        Key Logger เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งได้ทั้งด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ ฝังไว้ในแป้นพิมพ์ หรืออาจเป็นซอฟต์แวร์ที่ฝังอยู่ในวินโดวส์ และแพร่กระจายได้พร้อมกับไวรัสผ่านทางไดร์ฟ ผ่านทางการแชท หรือผ่านทางอีเมล์ก็ได้ 

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

การป้องกัน Key Logger


1.เปลี่ยนมาใช้โน้ตบุ๊ก แทนเครื่องพีซี เพราะแป้นพิมพ์ของโน้ตบุ๊กจะติดตั้งอุปกรณ์ Key Logger ได้ยากกว่า และโน้ตบุ๊กก็ยังสามารถพกพาติดตัวไปได้ตลอดเวลา จึงถือเป็นการลดโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีจะแอบมาติดตั้ง Key Logger บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา


2.สำหรับองค์กร ควรมีการให้ความรู้และการอบรมพนักงานผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้พนักงานรู้จักระมัดระวัง รู้จักการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการป้องกันได้อีกทางหนึ่ง 


3.สำหรับองค์กรควรเพิ่มมาตรการตรวจสอบรหัสผ่านเพิ่มขึ้นชั้นหนึ่งนอกเหนือจากการใช้ Username และ Password เช่น การใช้ Secure Token, Smart card หรืออุปกรณ์อื่นอีกชั้นหนึ่ง และควรมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันคนร้ายที่ได้รหัสก่อนหน้านี้กลับเข้ามาขโมยข้อมูลได้อีก 


4.สำหรับองค์กรควรติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส สำหรับ Key Logger แบบซอฟต์แวร์ และป้องกัน Key Logger แบบฮาร์ดแวร์ด้วยการควบคุมการเข้าออกของพนักงาน เพื่อไม่ให้สามารถลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ที่ตัวเครื่องได้ 


5.หากจะป้องกันในระดับสูงก็สามารถหาซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจจับ Key Logger มาใช้ ซึ่งสามารถช่วยปิดการติดต่อระหว่าง Key Logger กับคอมพิวเตอร์ และจะช่วยแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้โดยอัตโนมัติด้วย


6.ควรเพิ่มเมนูแบบ Drop Down เพื่อทดแทนเมนูแบบที่ต้องพิมพ์ หรือใส่ข้อมูลด้วยการคลิกตัวอักษรบนหน้าจอแทนการพิมพ์ ซึ่ง Key Logger จะไม่สามารถดักจับข้อมูลได้ 

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx


Trojan


xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
โทรจัน (Trojan) หมายถึงอะไร
โทรจัน (Trojan) เป็นโปรแกรมมัลแวร์ชนิดหนึ่งซึ่งออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราจากผู้ที่ไม่หวังดี โดยที่โทรจันจะถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ต   ในเว็บไซต์ใต้ดิน และสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
การทำงานของโทรจันก็เหมือนกับเรื่องเล่าของกรีก ที่ว่าด้วยกลอุบายซ่อนทหารไว้ในม้าไม้ขนาดใหญ่ และนำไปมอบให้กับชาวเมืองทรอย (Trojans) พอตกกลางคืน ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ก็ลอบออกมาเปิดประตูเมืองให้พวกของตนบุกเข้า ตีเมืองทรอยได้อย่างง่ายดาย เปรียบได้กับแฮคเกอร์ที่ส่งโปรแกรมลึกลับ (ม้าโทรจัน) มาคอยดักเก็บข้อมูลในพีซีของคุณ แล้วส่งออกไปโดยที่คุณไม่รู้ตัวนั่นเอง
ในบางครั้งที่เราเข้าใช้งานบนอินเตอร์เน็ตมักจะเจอกับอาการที่เครื่องมีอาการแปลก เช่น อยู่ดีๆ ไดรฟ์ หรือ CD-Rom ก็เปิดปิดชักเข้าชักออก หรือบางครั้งเครื่องก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมา บางคนอาจคิดว่าผีหลอก แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็แสดงว่าได้มีผู้บุกรุกเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราและได้เข้ามาควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราแล้ว ความสามารถของม้าไม้โทรจันนี้มีเยอะมาก ซึ่งถ้าเข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือ ผู้บุกรุกสามารถทำอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็ได้เหมือนกับว่ามันได้มานั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเลย
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ชนิดของ โทรจันยังแบ่งออกได้ ดังนี้
- Remote Access Trojan (RAT) หรือ Backdoor เป็นโทรจันที่เปิดช่องทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาควบคุมเครื่องได้จากระยะไกล หรือทำอะไรก็ได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อ
- Data Sending and Password Sending Trojan เป็นโทรจันที่ขโมยรหัสผ่านต่างๆ แล้วส่งไปให้ผู้ไม่ประสงค์ดี
- Keylogger Trojan เป็นโทรจันที่ดักจับข้อความทุกข้อความที่ได้พิมพ์ผ่านทางแป้นพิมพ์ของคีย์บอร์ด
- Destructive Trojan เป็นโทรจันที่สามารถลบไฟล์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อได้
DoS (Denial of Service) Attack Trojan เป็นโทรจันที่เข้าโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นเป้าหมายบนอินเทอร์เน็ตในรูปแบบ DoS หรือ DDoS (Distributed denial-of-service) เพื่อทำให้ระบบเป้าหมายปฏิเสธหรือหยุดการให้บริการ
- Proxy Trojan   เป็นโทรจันที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อกลายเป็นเครื่อง Proxy Server, Web Server หรือ Mail Server เพื่อสร้าง Zombie Network ซึ่งจะถูกใช้ให้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น
- FTP Trojan เป็นโทรจันที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่อกลายเป็นเครื่อง FTP Server
- Security software Killer Trojan เป็นโทรจันที่ Kill Process หรือลบโปรแกรมป้องกันไวรัสหรือลบไฟร์วอลบนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ เพื่อง่ายต่อการปฏิบัติการอย่างอื่นต่อไป
- Trojan Downloader เป็นโทรจันที่ดาวน์โหลด Adware, Spyware และ Worm ให้มาติดตั้งบนเครื่อง
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
การป้องกันไม่ให้เครื่องโดนโทรจัน (Trojan) 
                1. ไม่รับไฟล์แปลกๆ หรือส่งมาจากคนแปลกหน้าทางอินเทอร์เน็ต ทั้งทาง E-Mail หรืออื่นๆ
                2. ตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับหรือ Download ทางอินเทอร์เน็ตทุกครั้ง ด้วยโปรแกรมตรวจจับ Trojan
                3. ไม่เข้าไปในเว็บที่ไม่น่าเชื่อถือ
4. ติดตั้งโปรแกรม อย่าง NetBUS Detective จะคอยตรวจจับโทรจัน พวก Netbus, BO Orifice หรือโปแกรม NukeNubber
                5. ติดตั้งไฟร์วอลส่วนตัว (Personal firewalls) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ติดตั้งในพีซี เช่น Norton Personal Firewall 2.0, Norton Internet Security 2.0 หรือ Zone Alarm 2.1.44
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
การตรวจสอบโทรจัน (Trojan) ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
                1. หมั่นใช้โปรแกรมตรวจจับโทรจัน และUpgrade โปรแกรมตรวจจับโทรจันอย่างสม่ำเสมอ
                2. คอยสังเกตดูอาการต่างๆ ที่ผิดปกติของเครื่อง
                3. ทุกครั้งที่เล่นอินเทอร์เน็ต ต้องบันทึกวันเวลาและจำนวนชั่วโมงที่ใช้เสมอ และตรวจสอบกับทาง ISP ว่าตรงกันหรือไม่
                4. ทุกครั้งที่ Login เข้าระบบไม่ได้ให้สันนิษฐานว่าโดนขโมย Username กับ Password ให้ตรวจสอบกับทาง ISP